หลังจากทานอาหารเช้า เรียบร้อยที่ วัดไทยพุทธคยา ก็เตรียมตัวเดินทางด้วยเท้าไปแสวงบุญ เดินตามรอยพระพุทธเจ้า คือ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า หรือที่ เรียกกันว่า “พุทธคยา” สถานที่แห่งนี้อยู่ห่างจากริมฝั่งแม่น้ำเนรัญชรา ประมาณ 300-400 เมตร ซึ่งถือ เป็น 1 ใน 4 สังเวชนียสถาน ที่เป็นความใฝ่ฝันของ ชาวพุทธจากทั่วมุมโลก ต้องการเที่ยวจาริกมาแสวงบุญที่นี้ซักครั้ง ของชีวิต
ความสำคัญของสถานที่นี้ก็คือ พระพุทธองค์ ทรงตรัสรู้อนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณ ที่นี้ ในตอนเช้ามืดในคืนวันเพ็ญของ วันพุธ ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา “วันวิสาข” ก่อนพุทธศักราช 45 ปี ใต้ร่ม ต้นศรีมหาโพธิ์ พระพุทธองค์ทรงค้นพบความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ หรือที่เรียกว่า “อริสัจ 4” นั้นเอง
ในที่สุด ก็เดินทางมาถึง มาเข้าแล้ว ที่นี้มีกฎระเบียบ ในการเข้าที่เข็มงวดพอสมควร คือ คนที่จะเข้าไปในสถานที่แห่งนี้ต้องเปลี่ยนรองเท้า ใครที่มีกล้องที่ต้องการนำเข้าไปถ่ายรูป ต้องไปขออนุญาต พรอ้มกับเงินค่านำกล้องเข้าไป 100 รูปรี และโทรศัพท์ทุกรุ่น ห้ามนำเข้าไปเด็ดขาด อันนี้ไม่รู้เหตุผลที่ชัดเจน แต่ที่ฟัง ๆ มา เขากลัวว่าจะเอาโทรศัพท์ไปจุดระเบิด เพราะมันเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
หลังจากผ่านประตูด้านนอก ขออนุญาตเข้ามาแล้ว ก็มาถึงทางเข้าประตูด้านใน จะเห็นว่า ทั้งพระ ทั้งผู้ที่มาแสวงบุญนั้นเยอะมาก จริง ๆ แต่ผมไมรู้สึก หวิว ๆ เหมือนอยู่ตรงสถานที่นั้นคนเดียว ในชั่วขณะหนึ่ง ขนลุกซู่ เลย ไม่รู้ว่าคนที่ไปจะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า
ข้างหลังผมคือ สระโบกขรณี ซึ่งเป็นที่อยู่ของ พญานาค มุจรินทร์ ตามพุทธประวัติ พญานาคมุจลินทร์เป็นผู้แผ่พังพานปกป้องพระพุทธองค์ในขณะที่เกิดพายุฝนเป็นเวลาเจ็ดวันขณะ ทรงบำเพ็ญเพียรที่ใต้ต้นพระศรีมหาโพธิ์
มานั่งสมาธิ ใต้ร่มต้นพระศรีมหาโพธิ์ ตรงที่ พระพุทธองค์ตรัสรู้ เขาบอกว่า เวลานั่งสมาธิ ถ้าอยากใบโพธิ์ เพื่อเอาใว้บูชานั้นให้อธิฐานเอา ถ้ามีบุญวาสนา ใบโพธิ์จะร่วงหล่นลงมาอยู่ตรงหน้า ให้เราหยิบเอาได้ “เขาไม่อนุญาตให้คนเก็บใบโพธิ์ในต้น และ เก็บดินออกไปจากที่นี้ “ ผมนั่งอยู่ 30 นาที ไม่มีอะไรหล่นลงมา สงสัยบุญวาสนาน้อย
บรรยากาศ ทางเดิน รอบ พระมหาเจดีย์ จะเห็นพระลามะ และ ผู้คนกำลังสวดมนต์ นั่งสมาธิ ตามริมทางเดิน อยู่เต็มไปหมด บ้างคนก็ยื่นสวด บางคนก็นอน อย่าง พระลามะองค์นี้กำลังนอนสวดมนต์กราบไหว้ ตามแบบพุทธธิเบต
การได้มาเห็น มาสัมผัส มาพบเจอกับตาตัวเอง ของ สถานที่ตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า ในครั้งนี้ ถือเป็นความโชคดีอันยิ่งใหญ่ของชีวิตเลยทีเดียว มีความรู้สึกอิ่มบุญ มีความสุขอย่างบอกไม่ถูก คิดว่าทุกคนที่นับถือ ศาสนาพุทธ หน้าจะต้องการมาที่นี้ซักครั้งของชีวิต เหมือนกันกับผมก็เป็นได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น